![translation](https://cdn.durumis.com/common/trans.png)
นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
เลือกภาษา
สรุปโดย AI ของ durumis
- เพื่อสร้างความประทับใจที่ทรงพลังให้กับคู่สนทนา การใช้ร่างกายในการแสดงออกเป็นสิ่งสำคัญ การแสดงออกทางสีหน้าที่สดใสและการสบตาจะช่วยสร้างความประทับใจที่ดี
- การสนทนาควรใช้การออกเสียงที่ชัดเจนและโทนเสียงที่เหมาะสมเพื่อให้คู่สนทนาได้ยิน ความประทับใจแรกพบที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการสนทนาที่ประสบความสำเร็จ
- การสื่อสารอย่างกระตือรือร้นเพื่อช่วยให้คู่สนทนาเข้าใจ การรักษาความสัมพันธ์ในระดับเดียวกัน และการสนทนาต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ
1. พูดด้วยร่างกายทั้งหมด
การพูดและการฟังต่างก็เป็นการเผชิญหน้าและแลกเปลี่ยนกันโดยตรง
ดังนั้นการแสดงออกด้วยร่างกายทั้งหมดจึงสามารถสร้างความประทับใจให้กับอีกฝ่ายได้
เมื่อสนทนากัน ถ้าบรรยากาศซบเซา ให้พยายามแสดงออกอย่างร่าเริง
แสดงออกและยิ้มออกมาก็จะช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นได้
เพราะการสนทนาไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากการพูดเท่านั้น
2. ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและใบหน้าที่เคร่งเครียด
ไม่ว่าจะพูดคล่องแค่ไหน ถ้าสีหน้ามืดครึ้มหรือไม่สดใส
อีกฝ่ายก็จะรู้สึกหวาดระแวง สีหน้าที่สดใสทำให้ทั้งอีกฝ่ายและใจของเราสว่างไสว
3. พื้นฐานของการสนทนาคือการสบตา
เมื่อสนทนากัน ถ้าหลบสายตา อีกฝ่ายจะรู้สึกงงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้
ต้องสบตากับอีกฝ่ายเพื่อให้ใจตรงกันและสนุกกับเรื่องราว ถ้าต่างคนต่างมองไปที่อื่น
บรรยากาศในการสนทนาจะกลายเป็นเรื่องอึดอัด
4. เปลี่ยนน้ำเสียง
การสนทนาคือการทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยินเป็นอันดับแรก
แต่การพูดเสียงดังตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบนั้นอาจเป็นการไม่สุภาพ
ขนาดของเสียงควรเหมาะสม และน้ำเสียงควรมีการขึ้นลง
นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องฝึกการพูดออกเสียงชัดเจน
5. คนที่สร้างความประทับใจแรกได้ดีมักจะประสบความสำเร็จ
ความประทับใจของคนเกิดขึ้นจากการพบกันครั้งแรก
คนที่สร้างความประทับใจแรกได้ดี คำพูดของพวกเขาก็จะได้รับการยอมรับในทางที่ดี และทำให้คนฟังตั้งใจฟัง
เมื่อสนทนากัน ให้พยายามสร้างความประทับใจแรกที่ดีด้วยการแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม และมารยาทในการทักทาย
6. ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจ
เมื่อพูด จำเป็นต้องพยายามถ่ายทอดข้อความเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจ
ดังนั้นจึงควรพูดไปเรื่อย ๆ โดยตรวจสอบว่าอีกฝ่ายฟังอยู่หรือไม่
เพราะต้องมีคนฟังเรื่องราวถึงจะสมบูรณ์
7. คนที่สามารถสนทนากันอย่างเท่าเทียมกัน
เพื่อให้การพูดและการฟังเป็นไปอย่างราบรื่น ต้องมีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันระหว่างผู้ที่สนทนากัน
ลักษณะเฉพาะของการสนทนาในชั้นเรียนคือความไม่เท่าเทียมกัน
เพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน
ดังนั้นครูควรหาทางเอาชนะข้อดีของการสนทนาในชั้นเรียน
ไม่เพียงเท่านั้น เจ้านายก็ควรพยายามสื่อสารอย่างเท่าเทียมกับลูกน้อง ไม่ใช่เพียงแค่ตำหนิ
8. วิธีการทักทายอย่างคล่องแคล่ว
การทักทายคือการเริ่มต้นพูดกับใครบางคน
การทักทายที่ถูกต้องคือก้าวแรกในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคล
การทักทายต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนเสมอ และสำคัญมากที่จะต้องทำอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ของอีกฝ่าย
9. ทำแบบนี้เมื่อการสนทนาเงียบลง
หลายคนรู้สึกงงเมื่อการสนทนาเงียบลงไปชั่วขณะ
ในเวลานี้ อย่าเพิ่งรีบร้อน การรอให้อีกฝ่ายพูดก็เป็นวิธีที่ดี
นอกจากนี้ การหาหัวข้อร่วมกันมาพูดคุยก็เป็นสิ่งที่ดี
อาหาร เครื่องดื่ม ความรู้ ข้อมูล การขนส่ง สภาพอากาศ งานอดิเรก เพื่อน สุขภาพ ความงาม การท่องเที่ยว เป็นต้น ล้วนเป็นหัวข้อร่วมกันที่ดีได้
10. ระวังคำพูดที่ติดปาก
เมื่อพูดหรือพูดคุยกับผู้อื่น เราอาจมีคำพูดที่ติดปากออกมาโดยไม่รู้ตัว
แต่คำพูดที่ติดปากที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของการสนทนา ควรแก้ไขโดยเร็ว
เช่น เอาล่ะ อย่างแรก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เป็นคำพูดที่ติดปากที่ไม่มีประโยชน์
11. เปิดใจของอีกฝ่ายในการพบกันครั้งแรก
การเผชิญหน้าครั้งแรกนั้นเป็นการระวังตัวซึ่งกันและกัน จึงยากที่จะเปิดปากพูด
ในกรณีนี้ ควรเริ่มต้นด้วยการสร้างบรรยากาศที่ร่าเริง และนำสิ่งที่อีกฝ่ายสนใจมาเป็นหัวข้อสนทนา
การที่จะครอบครองใจของอีกฝ่าย สิ่งสำคัญคือการรวบรวมข้อมูลล่วงหน้า สังเกตสถานการณ์ และแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม และทักทายอย่างสุภาพ
12. ทำแบบนี้เมื่อโดนด่า
เมื่อโมโห สิ่งที่ดีที่สุดคืออย่าตอบโต้ทันที
ควรหายใจลึก ๆ พักสักครู่ และคิดแผนการแก้ปัญหาด้วยใจที่สงบ
การใช้อารมณ์จะทำให้เราแพ้
13. อธิบายให้เข้าใจง่าย
หลายคนคิดว่าการอธิบายให้ผู้อื่นฟังเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
แต่เราจำเป็นต้องมีความสามารถในการอธิบายให้เข้าใจง่าย
การเรียนรู้เทคนิคการอธิบายจะทำให้เราสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้อย่างเข้าใจง่าย
14. วิธีการโน้มน้าวใจที่ทำให้คนเคลื่อนไหว
อารมณ์ของมนุษย์มักจะเกิดการต่อต้านเมื่อถูกบังคับ
วิธีที่ฉลาดคือการค่อย ๆ นำเรื่องราวไปสู่จุดที่อีกฝ่ายรู้สึกอยากทำเอง
มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง
แต่คนอื่นไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่จะทำตามใจเรา
จำเป็นต้องมีความพยายามเพื่อลดช่องว่างระหว่างความเข้าใจและการกระทำ
สุภาษิต คำคม คำพังเพย บางครั้งก็มีพลังในการทำให้คนเคลื่อนไหว
จำเป็นต้องมีทักษะในการใช้งานอย่างเหมาะสม
15. คำพูดที่ดึงผลลัพธ์ที่ต้องการ
คนที่สามารถขอร้องได้อย่างคล่องแคล่ว จะแบ่งงานอย่างเหมาะสม และมีบทบาทในการใช้ความสามารถของผู้อื่น
เมื่อขอร้อง วิธีที่ดีคือการขอร้องด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม
“ผมเชื่อว่าหัวหน้าจะแก้ไขปัญหาได้แน่นอน”
“แบ่งปันภูมิปัญญาของคุณให้กับผมบ้าง พี่ชาย”
16. วิธีการปฏิเสธอย่างคล่องแคล่ว
การปฏิเสธคำขอของผู้อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย
จำเป็นต้องรู้เคล็ดลับในการปฏิเสธอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเสียใจ
เมื่อปฏิเสธ ควรเริ่มต้นด้วยการขอโทษก่อน
และอธิบายสาเหตุที่ไม่สามารถตอบสนองได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่สามารถพูดคุยได้ และเสนอทางเลือก
คนที่พูดเก่งคือคนที่ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกเจ็บปวด และสามารถปฏิเสธได้อย่างนุ่มนวล
17. พูดสั้น ๆ เมื่อเตือน
ทุกคนมีข้อบกพร่องและเรียนรู้และเติบโตผ่านความผิดพลาด
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนมาตำหนิสิ่งที่ผิด
แต่เมื่อตำหนิหรือเตือน ต้องคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้
ประการแรก ต้องคลายความต้านทานอย่างนุ่มนวล
ประการที่สอง สร้างบรรยากาศที่สามารถยอมรับการตำหนิได้
ประการที่สาม พูดสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง
บางครั้งการตำหนิอย่างคล่องแคล่วอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลลึกซึ้งยิ่งขึ้น
18. จับจังหวะการชมเชย
การตำหนิและการชมเชยล้วนเป็นการกระทำต่ออีกฝ่าย
การชมเชยนั้นง่ายกว่าการตำหนิ แต่เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
ควรคิดให้ลึกซึ้ง
การชมเชยจำเป็นต้องค้นหาข้อดีของผู้อื่น
แต่การค้นหาข้อดีของผู้อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย
นี่คือเหตุผลที่การชมเชยเป็นเรื่องยาก
เพื่อค้นหาข้อดีของผู้อื่น
① อย่าใช้ตัวเองเป็นมาตรฐาน
② มองเห็นด้านดี
③ มีใจที่จะชมเชยแม้กระทั่งสิ่งที่ควรจะเป็น
19. วิธีการพูดสุนทรพจน์แบบฉับพลัน
ทุกคนมักจะรู้สึกประหม่าเมื่อถูกเรียกให้พูดสุนทรพจน์แบบฉับพลัน
แต่มีวิธีที่จะเอาชนะได้
① เตรียมพร้อมสำหรับการพูดสุนทรพจน์ทุกครั้งที่ไปร่วมงาน
② ค้นหาเบาะแสของการพูดสุนทรพจน์จากการสังเกตสถานการณ์ และการฟังเรื่องราวของผู้อื่น
③ เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเองก่อน
20. ‘อารมณ์ขัน’ น้ำมันหล่อลื่นของการสนทนา
อารมณ์ขันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และถูกสร้างขึ้น
อารมณ์ขันสร้างบรรยากาศที่ร่าเริง และทำให้การสนทนาสนุกสนาน
ควรสนใจอารมณ์ขันและจดจำข้อมูลไว้ และใส่เข้าไปอย่างเหมาะสมขณะสนทนา เพื่อให้เกิดเสียงหัวเราะ
เมื่อพูดอารมณ์ขัน
① พูดอย่างเป็นธรรมชาติ
② ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม
③ บอกเล่าเรื่องราวสั้น ๆ
④ ถ้าคนพูดหัวเราะก่อน ความสนุกจะลดลง
⑤ ถ้าอารมณ์ขันไม่เข้าท่า อย่าบังคับให้หัวเราะ
ที่มา: https://topkoreans.tistory.com/30 [เว็บไซต์บล็อกยอดนิยมของเกาหลีใต้: Tistory]